Are You There God? It’s Me, Margaret. หรือในชื่อไทย วันนั้นของมาร์กาเร็ต ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า ที่ได้กลิ่นอายของแนว Coming of Age สร้างจากนิยายชื่อดังของ เจเน็ต รูบิน จากผลงานกำกับโดย เคลลี เฟรมอน คร็อก นำแสดงโดย แอ๊บบี้ คอร์นิช, เรเชล แม็คอดัมส์, แมทธิว เกรฟ, แคร์รี คุน, และ เจมส์ แม็คเอวอย และอีกมากมาย
ตัวหนังเล่าเรื่องราวของ มาร์กาเร็ต เด็กสาววัย 11 ปี ที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก หลังจากที่เธอต้องย้ายไปอยู่บ้านใหม่ในชานเมืองนิวเจอร์ซีย์กับพ่อและแม่ของเธอ มาร์กาเร็ตต้องปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ และสังคมใหม่ แถมยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจในช่วงวัยที่กำลังเติบโตและก้าวข้ามผ่านสู่การเป็นวัยรุ่นเต็มตัว
มาร์กาเร็ต ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเองและโลกรอบตัวมากมาย เธอสงสัยว่าเธอเองนั้นเป็นใคร ศาสนาของเธอคืออะไร และเธอควรใช้ชีวิตอย่างไรในอนาคต จากนั้นจึงเริ่มเขียนจดหมายถึงพระเจ้าเพื่อขอคำตอบ ซึ่งในระหว่างที่มาร์กาเร็ตกำลังปรับตัวกับชีวิตใหม่นั้นก็ได้พบกับเด็กสาวอีกสองคนคือ ลาเวนเดอร์ และ แคทเธอรีน ลาเวนเดอร์เป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและมั่นใจในตัวเอง ส่วนแคทเธอรีนเป็นเด็กสาวที่เงียบขรึมและเก็บตัว เธอจึงเริ่มสนิทสนมกับทั้งสองคนและได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากเพื่อนใหม่
แม้จะมีเพื่อนใหม่แต่ก็ไม่ได้ง่าย เพราะมาร์กาเร็ตยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมากมายอย่าง การที่เพื่อนสนิทของเธอเริ่มมีประจำเดือนแล้ว แต่มาร์กาเร็ตยังไม่มี เธอจึงรู้สึกกังวลและกลัวว่าตัวเองจะผิดปกติหรือไม่ แถมยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากเพื่อนและสังคมให้เธอเป็นเด็กผู้หญิงแบบหนึ่งที่สังคมยอมรับ จนทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับตัวตนของเธอเองว่าควรจะเป็นเหมือนคนอื่นหรือเลือกตามในสิ่งที่อยากจะเป็นเองดีกว่า ในที่สุด มาร์กาเร็ตก็ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองและโลกรอบตัว เพราะเธอเรียนรู้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนคนอื่น เธอสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ และยังเรียนรู้ว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่อยู่ภายในตัวเธอนั่นเอง
จุดเด่นของหนังเรื่องที่อยู่ที่การถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กสาววัย 11 ปี ได้อย่างเข้าใจและเข้าถึงอารมณ์ของผู้รับชม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางร่างกายและจิตใจของมาร์กาเร็ตได้อย่างสะท้อนความจริงมากๆ ตัวละครมาร์กาเร็ตเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าเอาใจช่วย จนทำให้คนดูสามารถเอาใจช่วยให้มาร์กาเร็ตผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอได้
นอกจากนี้ภายในเรื่องยังมีฉากที่สวยงามและน่าประทับใจ ซึ่งยังแฝงความหมายเชิงสัญลักษณ์ไว้อีกด้วยโดยสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของมาร์กาเร็ตได้อย่างดีเยี่ยม ตัวอย่างเช่น ฉากที่มาร์กาเร็ตกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ ฉากนี้สื่อให้เห็นถึงความสุขและอิสระของมาร์กาเร็ตในช่วงวัยเด็ก หรือฉากที่มาร์กาเร็ตกำลังมองดูตัวเองในกระจก ที่ตั้งใจจะสื่อให้เห็นถึงความกังวลและสงสัยในตัวเองของมาร์กาเร็ตนั่นเอง
อย่างไรก็ตามตัวหนังมีความยาวเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงอาจทำให้เนื้อเรื่องดูรวบรัดและขาดรายละเอียดบางอย่างไปบ้าง และถือว่ายังอาจดูเป็นสูตรสำเร็จของภาพยนตร์ Coming of Age อยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วก็เป็นภาพยนตร์สไตล์ช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิตตัวละครได้อย่างลึกซึ้งและน่าประทับใจมากทีเดียว สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย และให้ความหมายอะไรดีๆ กับคนดูกลับไปแน่นอน