Love Song (Country at Heart) (2020)

รีวิว Love Song (Country at Heart) (2020)

Love Song (Country at Heart) ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า ออกฉายในปี 2020 จากผลงานกำกับโดย Bradley Walsh ซึ่งได้นักแสดงอย่าง Jessy Schram, Niall Matter, Lucas Bryant และอีกมากมาย ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของนักร้องคันทรี่ผู้ดิ้นรนชีวิต จนได้เจอกับนักแต่งเพลงในแนชวิลล์ที่กำลังหาแรงบันดาลใจแต่งบทเพลงอยู่ ทั้งคู่ได้แต่งเพลงด้วยกัน และพบเจอกันทุกวันจนเกิดเป็นความรักที่กำลังก่อตัวในใจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

หนังได้เล่าเรื่องราวของ Shayna Moore (รับบทโดย Jessy Schram) เป็นนักร้องสาวชาวคันทรีที่อาศัยอยู่ในเพนซิลเวเนีย เธอใฝ่ฝันอยากจะประสบความสำเร็จในวงการดนตรี แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เพราะถูกผู้จัดการคนเก่าของเธอหลอกลวง จนทำให้เธอต้องเสียชื่อเสียง เธอจึงตัดสินใจเดินทางมายังเมืองแนชวิลล์ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง จนได้พบกับ Grady Taylor (รับบทโดย Niall Matter) นักแต่งเพลงชาวคันทรีชื่อดังที่กำลังอยู่ในช่วงตกอับ แต่เขาก็กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงใหม่อยู่เรื่อยๆ

ทั้งสองคนจึงได้ร่วมมือกันเขียนเพลงด้วยกัน ระหว่างการทำงานร่วมกันนั้น Grady ได้ช่วยเธอพัฒนาทักษะการร้องเพลงและ Shayna ก็ช่วยให้ Grady กลับมามีความเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงค่อยๆ พัฒนาไปจากเพื่อนร่วมงานกลายเป็นคนรู้ใจ แต่อย่างไรก็ตาม เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากอดีตและการแข่งขันในวงการเพลง แต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ค้นพบความหมายของคำว่ารัก และความสำเร็จร่วมกันในเส้นทางสายนี้

นี่คือหนังรักโรแมนติกฟีลกู๊ดที่ต้องบอกว่าดีมากๆ ทั้งบรรยากาศของหนัง และอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ออกมาได้อย่างกลมกล่อมลงตัวเลยทีเดียว หรือจะเป็นนักแสดงนำมีเคมีที่เข้ากันเป็นอย่างดี Jessy Schram และ Niall Matter ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างหวานสไตล์ฝรั่งมาก เรื่องราวมีความอบอุ่น โรแมนติก บวกกับเพลงประกอบภาพยนตร์เพราะๆ ที่ทำให้เราได้เข้าใจความหมายของคำว่ารักมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัยแน่นอน

แต่ด้วยความที่เป็นสไตล์หนังรักเน้นการเดินเรื่องเป็นเส้นตรง บางฉากเลยดูฉากบางฉากดูเรียบง่ายและขาดความน่าสนใจไปบ้าง ส่วนบทหนังก็ต้องยอมรับว่าบางช่วงดูคล้ายกับภาพยนตร์ Hallmark ทั่วไป แต่เชื่อว่าถ้าเป็นคอหนังรัก หนังโรแมนติกน่าจะไม่ได้ติดขัดอะไรในส่วนนี้เพราะน่าจะเสพเรื่องราวความโรแมนติกอยู่แล้ว เอาเป็นว่าถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี บรรยากาศหนังดี ได้อารมณ์ฟีลกู๊ดไม่มีผิดหวัง

นับว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่คุ้มค่าแก่การรับชม อบอุ่นหัวใจ และความฟินจากนักแสดงที่เคมีเข้ากันดีลงตัว อีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเพลงประกอบที่ไพเราะมาก ฟังได้ตลอดทั้งเรื่องเพราะหนังพยายามสอดแทรกเข้ามาบ่อยๆ แถมยังมีเพลงฉบับ Official ให้ไปรับฟังกันอีกด้วย เรียกว่าดูจบแล้วต้องหวนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแน่นอน