รีวิว Love in Taipei (2023)

รีวิว Love in Taipei (2023)

ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ Love in Taipei ผลงานกำกับโดย อาร์วิน เฉิน นำแสดงโดย รอส บัตเลอร์, แอชลีย์ เหลียว และ นิโค ฮิรากา ซึ่งเรื่องนี้สร้างจากนวนิยายเรื่อง Loveboat, Taipei (2020) ของอาบิเกล ฮิง เหวิน และออกอากาศผ่านช่อง Paramount กับเรื่องราวความรักของสาวที่ต้องย้ายมาเรียนอยู่ที่ไต้หวันและพบกับความรักที่ทำให้หัวใจต้องว้าวุ่น

หนังได้เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครอย่าง เอเวอร์ หว่อง เด็กสาวชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่เรียนอยู่ไฮสคูลในลอสแองเจลิส เธอเป็นเด็กเรียนดีและเป็นที่รักของพ่อแม่ แต่ก็รู้สึกกดดันที่พ่อแม่ของเธอบังคับให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยที่มีชื่อดังและเลือกสายงานในอาชีพที่พ่อแม่ต้องการ เธอจึงตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองด้วยการสมัครเข้าร่วมโครงการ Loveboat ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่พานักเรียนอเมริกันไปเรียนที่ไต้หวันเป็นเวลาในช่วงฤดูร้อน

จนกระทั่งเมื่อมาถึงไต้หวันก็ได้พบกับ เจสัน หนุ่มหล่อชาวไต้หวันผู้เป็นผู้นำของโครงการ Loveboat เจสันเป็นคนอบอุ่นและใจดี ทำให้เอเวอร์รู้สึกสบายใจและเปิดใจมากขึ้น แถมเธอยังได้พบกับ แจ็ค หนุ่มหล่อชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันที่มาเรียนที่ไต้หวันเหมือนกัน แจ็คเป็นคนสนุกสนานและร่าเริง ทำให้เอเวอร์รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

ระหว่างที่เอเวอร์อยู่ในไต้หวัน เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไต้หวันมากขึ้น ได้สัมผัสกับอาหารอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และผู้คนที่ใจดีมิตรไมตรีของคนในเมือง ไปพร้อมๆ กับการได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นว่าต้องการอะไรในชีวิตระหว่างการเลือกทำตามความฝันของตัวเองหรือทำตามความต้องการของพ่อแม่ หรือจะเป็นความรักครั้งใหม่จากผู้ชายสองคนนี้กันแน่

จุดเด่นของเรื่องนั้นอยู่ที่การเล่าเรื่องราวของหนังรักได้แบบไม่เลี่ยนเลย เราจะได้เห็นการเปิดโลกใบใหม่ไปพร้อมๆ กับตัวละครหลัก ที่ได้มาใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองที่เธอไม่เคยอยู่มาก่อน การปรับตัว และการเติบโตของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งในเมืองแห่งนี้ กับบรรยากาศดีๆ ได้ฟีลลิ่งมาก ในเรื่องจะมีทั้งฉากโรแมนติก ฉากตลก และฉากดราม่าที่ชวนให้ติดตาม

การนำเสนอวัฒนธรรมไต้หวันได้อย่างสวยงามและน่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารอร่อย และผู้คนที่เป็นมิตร กลายเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่วัฒนธรรมไต้หวันให้กับผู้ชมทั่วโลกได้ดีทีเดียว แถมเรายังได้เห็นการนำเสนอประเด็นทางสังคม อย่างปัญหาความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่ลูก การเลือกอาชีพตามความฝัน หรือปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมนั่นเอง

โดยรวมแล้วจัดว่า Love in Taipei เป็นหนังรักที่เหนือความคาดหมายเลยทีเดียว เพราะไม่ได้ขายแต่ฉากโรแมนติกจนเลี่ยน แต่เรายังได้เห็นการเติบโตไปพร้อมๆ กับตัวละครหลักด้วยที่เปลี่ยนจากช่วงวัยรุ่นเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่มากขึ้น ให้อารมณ์ที่สนุกครบรส เพราะมีทั้งสุขและเศร้าในแต่ละฉากปนกันได้อย่างดี เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ถือว่าไม่ควรพลาด